ฟังก์ชั่นหลักและคุณสมบัติของกล้อง Assembleon SMT มีดังต่อไปนี้:
การวางตำแหน่งที่มีความแม่นยำสูง: ระบบกล้องของเครื่อง SMT Assembleon สามารถระบุแผ่นรองชิ้นส่วนและจุด MARK ได้อย่างชาญฉลาดเพื่อให้แน่ใจว่าวางชิ้นส่วนได้ถูกต้อง ด้วยความร่วมมือของกล้องระดับอุตสาหกรรมและแหล่งกำเนิดแสง ความแม่นยำในการวางตำแหน่งจึงสามารถถึง ±0.05 มม. หรือสูงกว่านั้นได้
ระบบการจัดกึ่งกลางภาพ: ระบบการจัดกึ่งกลางภาพส่วนประกอบที่เพิ่มเข้ามาใหม่สามารถระบุส่วนประกอบต่างๆ ผ่านการสร้างภาพ ปรับระบบพิกัด X/Y และมุมการหมุนของหัวดูดโดยอัตโนมัติ ช่วยให้วางส่วนประกอบต่างๆ ได้ในตำแหน่งที่ถูกต้อง และเหมาะกับความต้องการในการวางส่วนประกอบต่างๆ
เซ็นเซอร์อินฟราเรด: เซ็นเซอร์อินฟราเรดของตัวป้อนจะถูกเพิ่มไว้ที่ทั้งสองด้านของโครงสร้างสถานีป้อนเพื่อตรวจจับว่ามีการติดตั้งตัวป้อนไว้ในตำแหน่งหรือไม่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากการลอยและการกระทบกับแกนหัว และเพื่อรับประกันความเสถียรและความปลอดภัยของกระบวนการ SMT
ฟังก์ชั่นแจ้งเตือนอัตโนมัติ: การใช้เครื่องตรวจจับแรงดันแบบดิจิตอลของ Panasonic จะสามารถแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อชิ้นส่วนขาดและชิ้นส่วนเสร็จสมบูรณ์ โดยเป็นการเตือนผู้ปฏิบัติงานให้เติมชิ้นส่วนทันเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดชะงักของการผลิต
อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้: การใช้การควบคุมคอมพิวเตอร์ระดับอุตสาหกรรมและระบบปฏิบัติการ WINDOWS อินเทอร์เฟซผู้ใช้เป็นมิตรต่อผู้ใช้ อุปกรณ์ทำงานได้เสถียรยิ่งขึ้น และผู้ใช้ใช้งานและบำรุงรักษาง่าย
การประยุกต์ใช้กล้อง SMT ของ Philips ในสายการผลิต SMT:
กล้อง SMT ของ Assembleon ใช้สำหรับระบุและจัดตำแหน่งส่วนประกอบในสายการผลิต SMT เป็นหลัก โดยการระบุแผ่นส่วนประกอบและจุด MARK อย่างชาญฉลาด ทำให้หลีกเลี่ยงข้อบกพร่องจากการพึ่งพาการระบุจุดศูนย์เชิงกลหรือการจัดตำแหน่งพินตำแหน่ง และรับประกันความแม่นยำและความเสถียรของการติดตั้งบนพื้นผิว นอกจากนี้ ระบบกล้องของเครื่อง SMT ของ Philips ยังรองรับตัวป้อนต่างๆ รวมถึงตัวป้อนแบบสั่น ถาดป้อน ตัวป้อนแบบเปล่า (เวเฟอร์) และตัวป้อนจำนวนมาก เพื่อตอบสนองความต้องการการผลิตที่แตกต่างกัน
โดยสรุป กล้อง Assembleon SMT มีบทบาทสำคัญในสายการผลิต SMT เนื่องจากมีความแม่นยำสูง ความเสถียร และความเป็นมิตรต่อผู้ใช้ ช่วยให้มั่นใจได้ว่ากระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพและแม่นยำ